หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โครงสร้าง การบอกเวลาภาษาอังกฤษ





การอ่านเวลาเป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้

         ในภาษาอังกฤษ, โดยปกติจะใช้การบอกเวลาเป็นแบบ 12 ชั่วโมงการบอกเวลาระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง (12-hour clockจึงเป็นวิธีการบอกเวลาที่นิยมใช้ในภาษาอังกฤษทั่วไป โดยใช้เลข 1 ถึง 12 ตามด้วย a.m. (ante meridiem) หรือ p.m. (post meridiem) ต่อท้าย โดยมีหลักการอ่านดังนี้

หากเป็นเวลาเต็มชั่วโมง ให้เติมคำว่า O’clock” ตามหลังเลขชั่วโมงนั้นๆได้ และ หากเราต้องการย้ำถึงเวลา ก็อาจจะเติมคำว่า sharp” ลงไปด้วย เช่น
It’s six O’clock now. = ขณะนี้เป็นเวลาหกนาฬิกา
See you tomorrow at six o’clock sharp = แล้วเจอกันพรุ่งนี้ ตอนหกโมงตรง

หากเป็นเวลาที่ผ่านชั่วโมงมาแล้ว แต่ไม่เกินสามสิบนาที ให้ใช้คำว่า past” เข้ามาช่วยในการบอกเวลา เช่น
                6.10 = Ten (minutes) past six หรือ  Six ten
                6.15 = A quarter past six หรือ  Six fifteen
                6.30 = Half past six หรือ Six thirty

หากเป็นเวลาที่ผ่านชั่วโมง และเกินสามสิบนาทีมาแล้ว ให้ใช้คำว่า to” เข้ามาช่วยในการบอกเวลา เช่น
                6.45 = A quarter to seven หรือ  Six forty-five
                6.50 = Ten (minutes) to seven หรือ  Six fifty
                6.35 = Twenty-five (minutes) to seven หรือ Six thirty-five
                การอ่านเวลาแบบระบุเวลาเช้า เย็น เป็นวิธีที่ง่าย และมีความชัดเจนในการสื่อสาร ซึ่งเป็นที่นิยมเช่นกัน เช่น
                4.45 p.m. = four forty-five in the evening
                4.00 a.m. = four o’clock in the morning

* หากเป็นเวลาเที่ยงตรงพอดีจะใช้คำว่า at noon หรือ midday” และหากเป็นเวลาเที่ยงคืนตรง ก็จะใช้คำว่า at midnight”



ให้นักเรียนเขียนเวลาดังต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษ
A.M.
เที่ยงคืน - เที่ยงวัน
P.M.
เที่ยงวัน - เที่ยงคืน

12.00 a.m.
01.30 a.m.
01.15 a.m.
05.26 a.m.
07.55 a.m.

03.18 p.m.
05.44 p.m.
06.00 p.m.
09.39 p.m.
12.00 p.m.



หลักการเขียน - อ่าน วิธีการบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษา

THE TIME
Asking the time - การถามเวลา

ก่อนถามควรใช้คำว่า Excuse me, เพื่อความสุภาพด้วยนะ

  what's the time?                                           ตอนนี้เวลาอะไร
  what time is it?                                             ตอนนี้เวลาอะไร
  could you tell me the time, please?             กรุณาบอกเวลาขณะนี้แก่ฉัน
  do you happen to have the time?               ท่านบอกเวลาขณะนี้ได้ไหม
  do you know what time it is?                      ท่านทราบไหมว่าขณะนี้เวลาอะไร
  what time do you make it?                          คุณจะทำมันเวลาอะไร


Telling the time - การบอกเวลา

   t's ...             มัน...                        about ...            ประมาณ ...   
   almost ...               เกือบจะ ..                just gone ...      เพิ่งจะ ...

       เวลาบ่ายสามโมงสิบห้า  อ่านว่า It’s a quarter past three in afternoon. (Quarter คือช่วงเวลาสิบห้าที หรือว่า 1 ใน 4 ส่วนของหนึ่งชั่วโมง)





ตัวอย่าง

  01.00                   one o'clock                                           หนึ่งนาฬิกา
  02.00                   two o'clock                                          สองนาฬิกา
  01.15                   quarter past one                               หนึ่งนาฬิกาสิบห้านาที
  02.15                   quarter past two                              สองนาฬิกาสิบห้านาที
  01.30                   half past one                                        หนึ่งนาฬิกาสามสิบนาที
  02.30                   half past two                                        สองนาฬิกาสามสิบนาที
  01.45                   quarter to two                                     อีกสิบห้านาทีจะสองนาฬิกา
  02.45                   quarter to three                                อีกสิบห้านาทีจะสามนาฬิกา
  01.05                   five past one                                        หนึ่งนาฬิกาห้านาที
  01.15                   ten past one                                          หนึ่งนาฬิกาสิบนาที
  01.55                   five to two                                           อีกห้านาทีจะสองนาฬิกา
  01.50                   ten to two                                             อีกสิบนาทีจะสองนาฬิกา
  01.40                   twenty to two                                      อีกยี่สิบนาทีจะสองนาฬิกา
  01.35                   twenty-five to two                             อีกยี่สิบห้านาทีจะสองนาฬิกา
  15.15                   ten fifteen                                             สิบนาฬิกาสิบห้านาที
  10.30                   ten thirty                                               สิบนาฬิกาสามสิบนาที
  10.45                   ten forty-five                                       สิบนาฬิกาสี่สิบห้านาที
  10.00                   ten am                                                   สิบโมงเช้า
  06.00                   six pm                                                   หกโมงเย็น
  12.00                   at noon, midday                             เที่ยงวัน
  24.00                   midnight                                               เที่ยงคืน
  01.20                   twenty past one                                   หนึ่งนาฬิกายี่สิบนาที
  01.25                   twenty-five past one                          หนึ่งนาฬิกายี่สิบห้านาที

หลักการเขียน - อ่าน ตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษ

การนับหลักสิบ (1 – 99)
21  = 20+1 >>> twenty + one = twenty-one
32 = 30 +2 >>> thirty + two = thirty-two
44 = 40 + 4 >>> forty+four = forty-four
68 = 60+ 8 >>> sixty+eight = sixty-eight
97 = 90+7 >>> ninety+seven = ninety-seven
ที่เหลือก็ทำคล้ายกันครับ ไม่ยาก สังเกตนิดหนึ่งนะครับว่าหลักสิบกับหลักหน่วยมีเส้นขีดคั่นกลาง
การนับหลักร้อย (100 – 999)
153 =100+50+3 >>> one + hundred+fifty+three =   one hundred and fifty three
576 = 500+70+6 >>> five+hundred+seventy+six =   five hundred and seventy-six
880 = 800+80 >>> eight + hundred+eighty =   eight hundred and eighty
905 = 900+5 >>> nine + hundred+five =   nine hundred and five
ที่เหลือก็ไม่ยากครับทำคล้ายกัน โปรดสังเกตว่าระหว่างหลักร้อย กับหลักสิบและหน่วย มี and คั่นกลาง

ให้นักเรียนเขียนตัวเลขดังต่อไปนี้เป็นภาอังกฤษ
1.             35
2.             44
3.             47
4.             59
5.             68
6.             73
7.             88
8.             92
9.             97
10.      99
1.             108
2.             155
3.             222
4.             379
5.             414
6.             593
7.             677
8.             851
9.             934
      10.   99

การนับหลักพัน (1000 – 9999)
3,234  = 3000 +200+30+4   =   three  thousand two hundred and thirty-four
7,302  = 7000+300+2 = seven thousand three hundred and two
5,045  = 5000+40+5 =  five thousand and forty-five
ที่เหลือก็ไม่ยากครับทำคล้ายกัน โปรดสังเกตว่าระหว่างหลักร้อย กับหลักสิบและหน่วย มี and คั่นกลาง
การนับหลักหมื่น (10000 99999)
เนื่องจากว่าคำว่า หมื่น ในภาษาอังกฤษไม่มี แล้วจะนับกันอย่างไรล่ะ คำตอบคือเขานับหลักพันนั่นแหละว่ามันมี กี่สิบพัน เช่น
10,000 = สิบพัน  >> ten thousand
50,000 = ห้าสิบพัน >> fifty thousand
73,000 = เจ็ดสิบสามพัน >> seventy-three thousand
40,320 = 40 พัน+300+20 >>> forty thousand three hundred and twenty
64,327 = 64 พัน+300+20+7 >>>   sixty-four thousand three hundred and twenty-seven
98,028 = 98 พัน + 20 +8 >>> ninety-eight thousand and twenty-eight

ให้นักเรียนเขียนตัวเลขดังต่อไปนี้เป็นภาอังกฤษ
1.             1,010
2.             1,155
3.             2,376
4.             3,852
5.             4,111
6.             5,984
7.             6,008
8.             7,777
9.             8,661
10.      9,904
11   10,011
12   19,150
13   27,391
14   30,953
15   47,000
16   50,123
17   67,890
18   76,543
19   80,008
20   90,909

การนับหลักแสน (100,000 999,999)
คำว่า แสน ก็ไม่มีในภาษาอังกฤษอีกแล้ว เขาก็นับหลักพันอีกนั่นแหละว่ามี
กีร้อยพัน เช่น
200,000 = สองร้อยพัน >> two hundred thousand
620,000 = หกร้อยยี่สิบพัน >> sixty-two hundred thousand
854,000 = แปดร้อยห้าสิบสี่พัน >> eight hundred and fifty-four thousand
456,321  = 456 พัน+300+20+1 >>> four hundred and fifty-six thousand three hundred and twenty-one
876,530 = 876 พัน + 500 >>> eight hundred and seventy-six thousand five hundred and thirty

การนับหลักล้าน (1,000,000 9,999,999)
คำว่า ล้าน มีในภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็เอาไปนับได้เลยว่ามีกี่ล้าน ส่วนหลักอื่นๆก็ได้เรียนรู้มาหมดแล้วนะครับ
1,234,567  = one million two hundred and thirty-four thousand five hundred and sixty-seven
5,800,345 = five million eight hundred thousand three hundred and forty-five


ให้นักเรียนเขียนตัวเลขดังต่อไปนี้เป็นภาอังกฤษ
1.             123,456
2.             357,201
3.             564,820
4.             793,157
5.             909,090
1.             2,086,533
2.             4,563,210
3.             6,789,123
4.             8,264,913
5.             1,001,001